• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


PMS กับระบบย่อยอาหาร รับมืออาการท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย ก่อนมีประจำเดือน

Started by Joe524, Today at 05:06 AM

Previous topic - Next topic

Joe524


ภาวะก่อนมีประจำเดือน (PMS) เป็นอาการที่ผู้หญิงหลายคนพบเจอในช่วงก่อนมีประจำเดือน โดยมีอาการหลากหลายทั้งทางร่างกายและอารมณ์ หนึ่งในกลุ่มอาการทางร่างกายที่พบได้บ่อยคือ ผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน รวมถึงสารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandins) ที่เพิ่มขึ้น

อาการ PMS ที่ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร
อาการทางระบบย่อยอาหารที่พบบ่อยในช่วง PMS ได้แก่:

ท้องอืด (Bloating): เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการที่ร่างกายกักเก็บน้ำและโซเดียมเพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง
ท้องผูก (Constipation): ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือนสามารถทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลง ส่งผลให้ท้องผูก
ท้องเสีย (Diarrhea): ในบางคน ฮอร์โมนพรอสตาแกลนดินที่เพิ่มขึ้นจะไปกระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
แก๊สในกระเพาะอาหารมากเกินไป (Excess Gas/Flatulence): การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนสามารถทำให้เกิดการสะสมของแก๊สในลำไส้ได้
ปวดเกร็งท้อง (Abdominal Cramping): แม้จะสัมพันธ์กับการบีบตัวของมดลูกโดยตรง แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงระบบย่อยอาหาร ทำให้รู้สึกปวดท้อง หรือปวดบีบในช่องท้อง
คลื่นไส้ (Nausea): พบได้ในบางราย
วิธีรับมือผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารจาก PMS
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหารสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้:

1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

รับประทานอาหารมื้อเล็กๆ บ่อยขึ้น: แทนที่จะกินมื้อใหญ่ๆ 3 มื้อ ลองแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ 5-6 มื้อต่อวัน จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ง่ายขึ้น และลดอาการท้องอืด
เน้นอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วและเมล็ดพืช จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูก แต่หากมีอาการท้องเสีย ควรเลือกไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ เช่น กล้วย แอปเปิ้ล (ปอกเปลือก) ข้าวโอ๊ต
ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ ช่วยลดอาการท้องอืดและช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีอาการท้องผูก
หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการ:
อาหารเค็ม/โซเดียมสูง: ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น และท้องอืด
อาหารหวาน/น้ำตาลสูง: อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่ง และส่งผลต่ออารมณ์ รวมถึงอาการทางเดินอาหาร
คาเฟอีน (ชา กาแฟ) และแอลกอฮอล์: อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ และกระตุ้นให้เกิดอาการท้องเสียหรือท้องอืด
อาหารมัน/ทอด และอาหารรสจัด: อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้นและกระตุ้นอาการท้องเสีย
ผลิตภัณฑ์จากนม: ในบางคนอาจมีอาการแพ้แลคโตส ซึ่งสามารถทำให้อาการแย่ลงได้
รับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง: เช่น ผักใบเขียวเข้ม กล้วย อะโวคาโด มันหวาน มะเขือเทศ โพแทสเซียมช่วยปรับสมดุลโซเดียมในร่างกายและลดอาการท้องอืด
เสริมโปรไบโอติก: การรับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต คีเฟอร์ กิมจิ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรไบโอติก อาจช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้และบรรเทาอาการท้องเสียได้
เพิ่มกรดไขมันโอเมก้า-3: เช่น ปลาแซลมอน เมล็ดแฟลกซ์ วอลนัท อาจช่วยควบคุมระดับพรอสตาแกลนดิน
2. การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดิน โยคะ หรือว่ายน้ำ ช่วยลดความเครียด เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ลดอาการท้องอืดได้
จัดการความเครียด: ความเครียดส่งผลโดยตรงต่อระบบย่อยอาหาร ลองหาวิธีผ่อนคลาย เช่น โยคะ การทำสมาธิ หรือการหายใจลึกๆ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นตัว ลดความรุนแรงของอาการ PMS
3. การใช้ยาหรืออาหารเสริม (ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ)

ยาบรรเทาอาการท้องเสีย/ท้องผูก: หากอาการรุนแรง อาจใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs): เช่น ไอบูโพรเฟน อาจช่วยลดอาการปวดเกร็งและอาการปวดอื่นๆ ได้ แต่ควรระวังผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหารหากใช้ต่อเนื่อง
อาหารเสริม: เช่น แมกนีเซียม วิตามินบี 6 อาจช่วยลดอาการ PMS โดยรวมได้
หากอาการ PMS ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างรุนแรง หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ถ่ายเป็นเลือด ปวดท้องรุนแรง มีไข้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพอื่นๆ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) ซึ่งมีอาการคล้ายคลึงกับ PMS ได้

Tags : PMS กับระบบย่อยอาหาร