(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/_Digital_Offset_Head-189345a4ab6d12b63.jpg) (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)
การ พิมพ์นามบัตร นั้นแรกเริ่มถูกใช้เพื่อสำหรับการแนะนำตัวของตนให้กับบุคคลภายนอก เพื่ออำนวยความสะดวกใน
การช่วยให้อีกฝ่ายสามารถจำตนเองเจริญขึ้น และทำให้อีกฝ่ายรู้โปรไฟล์ของเราโดยคร่าวได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ตำแหน่ง
ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ สำหรับเพื่อการพิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)แจกนั้นได้รับความนิยมกันอย่างมากในอดีตในยุคที่ยังไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่
ด้วยเหตุว่าถ้าต้องการจดเบอร์โทรศัพท์จะต้องใช้การเขียนลงสมุดแล้วจำเป็นต้องถามไถ่รายละเอียดจากบุคคลนั้น ซึ่งอาจจะไม่
สบายแล้วก็ทำให้ล่าช้าอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการสัมมนาหรือพบปะคนอื่นด้วยแล้ว การพิมพ์นามบัตรจึงนับเป็น
สิ่งที่ต้องการอย่างเสียไม่ได้
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยสำหรับการแนะนำตนเองและโปรไฟล์ได้มากมายหลากหลายวิธี แต่ว่าถ้าว่านิยามของการ
พิมพ์นามบัตรไม่ใช่แค่เพียงแค่เป็น "Name Card" แต่ว่ากลายเป็น "Business Card" ซึ่งสื่อความหมายโดยนัยมีบัตรที่ใช้
เพื่อการติดต่อธุรกิจหรือเรียกได้บัตรที่ใช้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการก็ได้ สำหรับเพื่อการติดต่อธุรกิจกับผู้อื่นนั้นการแจกนามบัตรนั้น
เป็นความจำเป็นมากมายในตอนนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้นค่าความนิยมของประเทศญี่ปุ่นนั้นถือว่าให้พกนามบัตรติดตัวตลอดระยะเวลาแล้วก็ให้ความเอาใจใส่มากมาย
กว่ากระเป๋าธนบัตรอีกด้วย เนื่องจากว่าถ้าเกิดมีการพบเจอบุคคลภายนอกจนกระทั่งมีการแนะนำตัวแล้วไม่มีนามบัตรจัดว่าเสียมารยาท
และไม่ให้เกียรติบุคคลนั้น ด้วยเหตุนี้การพิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)ก็เลยมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะในเชิงธุรกิจแต่รวมทั้งบุคคลทั่วไปด้วย
ลักษณะของนามบัตรนั้นจะแตกต่างออกไปตามวัตถุประสงค์การใช้แรงงาน อย่างเช่น ใช้แนะนำเป็นการส่วนตัว หรือ แนะ
นำในทางธุรกิจ ฯลฯ โดยเนื้อหาข้อมูลในการพิมพ์นามบัตรจะไม่เหมือนกันออกไป โดยธรรมดาข้อมูลพื้นฐานที่ควรมีไม่ว่า
นามบัตรแบบไหนเป็น1.ชื่อ – ชื่อสกุลของผู้ครอบครองบัตร 2.เบอร์โทรศัพท์หรือวิถีทางติดต่อโดยจะเป็นวิธีใดก็ได้ประการใดอย่าง
หนึ่งก็ได้หรือหลายสิ่งหลายอย่างก็ได้ตามแต่สบาย ซึ่งในปัจจุบันนอกเหนือจากเจาะจงเบอร์โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ บางครั้งอาจจะเพิ่มเติมที่อยู่อีเมล
facebook LineID เพิ่มเป็นต้น แต่ว่าหากเป็นการพิมพ์นามบัตรเพื่อธุรกิจก็ควรจะมีเพิ่มในเรื่องชื่อบริษัท ตำแหน่ง
ที่รับผิดชอบ และก็อาจจะมีข้อมูลบริษัทอย่างคร่าวๆ รวมถึงการใช้อีเมลหรือเบอร์โทรศัทพ์อาจจะควรจะเป็นของบริษัทด้วยเพื่อความน่า
เชื่อมั่นเป็นต้น
พิมพ์นามบัตรนั้นจะมีลักษณะเป็นขนาดแผ่นเดียวโดยมีความแข็งแรงพอประมาณ ไม่สมควรบางหรืออ่อนตัวจนถึงเหลือเกิน ซึ่ง
ขนาดอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีแตกต่างกันออกไปบ้างนิดหน่อยแต่ว่าไม่ควรแตกต่างจากขนาดมาตรฐานเท่าไรนัก นั่นคือ 3.5 x 2.125 นิ้ว ด้วยเหตุว่าขนาด
ของบรรจุภัณฑ์ที่ดีไซน์มาเก็บนามบัตรนั้นจะมีขนาดที่กับขนาดมาตรฐานเป็นหลัก สำหรับกระดาษที่ใช้ต้องมีความดก
260 แกรมขึ้นไป โดยนิยมกระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษแฟนซี โดยการพิมพ์นามบัตรนั้นจะพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้านก็ได้
โดยปัจจุบันนี้นิยมพิมพ์สองด้านโดยจะมักจะระบุเนื้อหาเป็นภาษาไทยด้านหนึ่งแล้วก็ภาษาอังกฤษด้านหนึ่ง ซึ่งนับว่าเหมาะสำหรับเพื่อการ
ใช้ติดต่อธุรกิจที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคนต่างชาติรวมอยู่ด้วย
การออกแบบนามบัตรให้เกิดความสวยสดงดงามนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งด้วยเหตุว่าช่วยเพิ่มความน่าไว้ใจสำหรับในการทำธุรกิจ สำหรับ
คนที่ไม่ทราบท่านหรือบริษัทท่านเป็นการส่วนตัวแม้ได้เห็นนามบัตรที่ดูภูมิฐานก็จะทำให้เชื่อถือว่าบริษัทท่านต้องมองน่าไว้วางใจตามไป
ด้วย การตกแต่งเสริมเติมในกับนามบัตรจึงเป็นที่นิยมกันอย่างมากมาย ตัวอย่างเช่น การเคลือบ UV เคลือบเงา เคลือบด้าน เคลือบ
Spot UV ปั๊มนูน ปั๊มทอง และก็อื่นๆอีกมากมายขึ้นกับความชอบใจของแต่ละท่านนั่นเอง
Tags : พิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)
Tags : พิมพ์นามบัตร สวย (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)